หมวดหมู่: ดูหนังออนไลน์ รักโรแมนติก ดราม่า หนังชีวิต, หนังฝรั่ง
IMDb: 7.2
เรื่องย่อ: บทสรุปของหนัง... แน่นอนครับผมไม่บอกหรอก แต่บอกได้ว่าจบได้เหมาะครับ มันมีความหมายมาก และซึ้งมากๆๆๆ ทีเดียว แง่คิดในเรื่อง มีไม่มากครับ แต่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ... จงให้เวลากับคนที่คุณรักเท่าที่จะทำได้ เพราะคุณไม่รู้หรอกครับว่าคุณหรือเขาจะต้องจากโลกนี้ไปเมื่อไร... เมื่อหนังจบ เมื่อเพลงใน End Credits เพลงแรกจบลง ผมยังคงนั่งนิ่ง เครดิตก็เคลื่อนไปอย่างเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะมีเพลงที่ 2 ดังตามมา... จังหวที่ทุกอย่างอยู่ในความเงียบนั้นผมนั่งนิ่ง และได้ยินเสียงบางอย่างกลางความเงียบ เสียงนั้นมันดัง ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก... ใช่ครับ ผมได้ยินเสียงหัวใจของตนเอง มันเต้นเร็วเอาการครับ เหมือนคุณดูหนังลุ้นๆ สักเรื่องมาอย่างนั้นแหละ แต่ปกติหนังลุ้นๆ ใจคุณจะเต้นเร็วโดยคุณไม่รู้ตัว ส่วนกับหนังเรื่องนี้ ด้วยอารมณ์ ด้วยสไตล์ที่มันเป็น มันจะมีช่วงเวลาหลังหนังจบที่มีบรรยากาศนิ่งๆ ปรากฏขึ้นมา ราวกับต้องการให้คุณสำรวจตัวเอง ทั้งสำรวจอารมณ์หลังดูหนัง และสำรวจแง่คิดดีๆ เกี่ยวกับความรักที่หนังเพิ่งนำเสนอคุณไป เป็นหนังเล็กๆ ที่ได้ยินคำชมมานานพอสมควรแล้วครับ แต่ก็ไม่นึกว่าตัวเองจะชอบได้ขนาดนี้ หนังครบเครื่องและเต็มรสทั้งเรื่องความรักหวานๆ กับเรื่องความลุ้น (ว่าตอนจบจะลงเอยอย่างไร) ก็ต้องยกความชอบให้กับ Christina Welsh คนเขียนบทที่เขียนเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลยครับ ไม่เคยทำงานหลังกล้องแบบเต็มๆ มาก่อนด้วย และจวบจนถึงตอนนี้ (ปี 2013) เธอก็ยังไม่มีผลงานใหม่ออกมา ยกเว้นเรื่อง Addicted ที่ว่ากันว่าจะออกฉายปี 2014 ก็น่าตามไปดูอยู่ครับ ส่วนผู้กำกับก็คือ Gil Junger คนนี้ถือว่าคุ้นเคยครับ เพราะเขากำกับหนังและซีรี่ส์ทีวีบ่อย และยังเป็นคนทำ 10 Things I Hate You หนังวัยรุ่นชั้นดีที่ทำให้ Heath Ledger กลายเป็นที่จดจำของคนดูเป็นเรื่องแรก กับเรื่องนี้ก็ถือว่าเขาคุมหนังได้ลงตัวครับ ส่วนหนึ่งก็เพราะบทที่แน่นและแข็งพอด้วย (เพราะบางเรื่องถ้าบทไม่แน่น Junger เองก็เอาไม่อยู่เหมือนกันครับ) ผลที่ได้จึงออกมากลมกล่อมกำลังดีแบบนี้ ผมชอบสิ่งที่หนังพยายามจะสื่อสารกับเรานะครับ หนังตั้งคำถามคู่รักทุกคู่ในโลกว่ารู้จักคำว่ารักดีแค่ไหน สิ่งที่เราทำทุกวันนี้เรียกว่า "รัก" ได้หรือไม่ หรือคำว่า "รัก" นั้นแท้จริงมีโฉมหน้าอย่างไร หรือมันอาจไม่มีโฉมหน้าที่แท้จริงใดๆ เพราะมันเป็นแค่พฤติกรรมที่คนทำแล้วก็กำหนดนิยามกันขึ้นมาเอง ไม่มีแบบแผนอะไรในธรรมชาติสักหน่อย เอียนถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่อ่อนเดียงสาใสคำว่า "รัก" เพราะตอนแรกเขาคิดว่าการคบหากัน กินข้าวกัน ไปเที่ยวกัน เดินจับมือกัน และนอนหลับไปบนเตียงเดียวกัน นั่นน่าจะพอแล้วสำหรับความรัก แต่จริงๆ การจะทำให้ต้นรักเจริญเติบโตได้อย่างสวยงามเราก็ควรทำอะไรที่มากกว่านั้น ไม่ว่าจะการรับฟังคนรัก การพยายามทำความเข้าใจเขา การให้อภัยเขา การปรับตัวเข้าหากัน การพูดสิ่งที่จรรโลงใจมากกว่าจะทำร้ายจิตใจกัน อีกทั้งการยอมสละบางสิ่งเพื่อให้คนรักมีความสุขมากขึ้นอีกสักหน่อยก็ยังดี ความรักไม่มีใครเป็นกูรูได้หรอกครับ เพราะต่างคู่ต่างคนก็ต้องสูตรกันไป โดยเรานั้นต้องค่อยๆ เรียนรู้ไปเพราะนิยามหรือความหมายมันเปลี่ยนได้ตามบริบทต่างๆ และในบางครั้งเราก็ต้องกล้ารับกล้ากินความผิดหวังบ้างเพื่อให้เราเข้าใกล้คำว่าสมหวังมากขึ้น